Ford (ฟอร์ด) วางแผนที่จะลดพนักงานทั่วโลกถึง 10% เนื่องมาจากความพยายามที่จะลดต้นทุน $3,000 ล้าน พร้อมด้วยยอดขายรถยนต์ที่ลดลง และต้องมีค่าใช้จ่ายในด้านเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้ในการผลิต
ตามหนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ได้รายงานว่า ฟอร์ดจะปลดพนักงานที่มีอยู่ทั่วโลกถึง 20,000 คนในสัปดาห์นี้ (16 พฤษภาคม 2017 ที่ผ่านมา) และผลกระทบดังกล่าวส่วนใหญ่จะตกไปยังพนักงานที่ได้รับเงินเดือนประจำ
นับตั้งแต่ปี 2014 ที่ Mark Fields ได้กลายเป็นผู้บริหารของ Ford หุ้นของบริษัทลดลงเกือบ 40% นอกจากนี้ผลกำไรของฟอร์ดชะลอตัวในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาเนื่องมาจากความต้องการรถยนต์ที่ลดลง ทั้งนี้ฟอร์ดได้จัดสรรเม็ดเงินจำนวน $4.5 พันล้านเพื่อพัฒนารถพลังงานไฟฟ้า และมีความตั้งใจที่จะเปิดตัวรถยนต์รถยนต์ไร้คนขับ (Autonomous Car) ในปี 2021
ฟอร์ดยังไม่ไดยืนยันในเรื่องดังกล่าว แต่ได้แถลงข่าวต่อไปนี้
“เรายังคงมุ่งเน้นไปที่กลยุทธ์สำคัญในการสร้างมูลค่า และผลักดันการเติบโตของผลกำไร ซึ่งรวมถึงการสร้างหลักกำไรในธุรกิจหลักของเรา เปลี่ยนแบบแผนที่มีประสิทธิภาพต่ำในธุรกิจหลัก และมีการลงทุนครั้งใหม่อย่างรอบคอบ พร้อมกับการลดต้นทุน และการผลิตแบบลีน (การผลิตที่มุ่งเน้นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และไม่สูญเปล่า)”
ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันส่งผลให้ค่ายรถยนต์หลายๆ ค่ายต่างต้องการลดค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงไม่พ้นฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนบริษัทให้เดินหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม รอติดต่อว่า Ford จะทำอย่างไรกับสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ครับ
ขอบคุณแหล่งข้อมูล : www.thaicarlover.com
บทความแนะนำ : ยอดตก !!! GM ตัดสินใจที่จะปิดโรงงานประกอบรถยนต์ 5 แห่งในสหรัฐชั่วคราว